กรุงศรีฯปักธงเสิร์ฟบริการ ESG Finance ธุรกิจรายใหญ่ ตั้งเป้าโตสินเชื่อ 2%

0 Comments

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดกลยุทธ์ธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจปี’65 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อโต 2% จากยอดคงค้าง 4.13 แสนล้านบาท ชูธงหนุนลูกค้าผลิตภัณฑ์และบริการครบวงจร โฟกัส ESG Finance คาดปี 73 ปล่อยได้ 1 แสนล้านบาท

วันที่ 10 มีนาคม 2565 นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ในปี 2565 ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่ออยู่ที่ 2% สอดคล้องกับภาวะตลาด เนื่องจากยังคงมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องของสงครามที่สร้างความไม่แน่นอน
โดยธนาคารไม่เน้นการเติบโตมาก แต่จะให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ และมุ่งเน้นขายพอร์ตสินเชื่อในเรื่องของความยั่งยืน หรือ ESG ทั้งในแง่สินเชื่อเก่าและใหม่ โดยในปี’64 ธนาคารมีสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 4.13 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโต 13% จากปีก่อน

ทั้งนี้ การเติบโตในปีนี้จะมุ่งเน้นผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.การสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจของลูกค้า หรือ Value Creation โดยเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการครบวงจรผ่านการร่วมมือกับ MUFG เพื่อช่วยลูกค้าขยายกิจการทั้งในและต่างประเทศ และพัฒนาตลาดการเงินด้านความยั่งยืนด้วย ESG Finance โดยธนาคารตั้งเป้าภายในปี 2573 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อและระดมทุนในส่วนของ ESG จำนวน 5 หมื่นล้านบาท-1 แสนล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มการช่วยลูกค้าซื้อและขายกิจการ (M&A) ในตลาดอาเซียนผ่านเครือข่ายธนาคารท้องถิ่นที่มีอยู่ จะเห็นว่าภายใต้สถานการณ์โควิด-19 แม้ว่าแนวโน้มการซื้อกิจการจะน้อย เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปดูกิจการได้ ทำให้เกิดการตรวจสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ค่อนข้างยาก แต่จะเห็นว่าในฝั่งการขายกิจการมีมากกว่าซื้อกิจการ

ส่วนหนึ่งมาจากต้องการตัดขายบางพอร์ตกิจการ เพื่อเข้าสู่เรื่องของ ESG หรือการขยับขยายกิจการเพื่อเข้ากับเมกะเทรนด์มากขึ้น แต่โดยรวมปีนี้ดีลซื้อขายกิจการน่าจะมีมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีดีลที่อยู่ระหว่างพูดคุยกับลูกค้าหลายราย

ด้าน 2.คุณภาพสินทรัพย์ ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงการฟื้นฟูหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น และสนับสนุนลูกค้าในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยธนาคารได้ช่วยประคองลูกค้าในภาวะดอกเบี้ยผันผวน มีการปรับเป็นดอกเบี้ยคงที่มากขึ้น รวมถึงช่วยเหลือทางด้านสภาพคล่อง บริหารต้นทุน

และ 3.Value Chain & Digitalization ธนาคารมีแผนที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำธุรกรรมการเงินมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และเดินหน้ายกระดับกระบวนการการทำงานภายในของเราด้วยการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเป็นตัวช่วยเสริมสร้างศักยภาพของระบบการทำงานและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

“ทิศทาง ESG Finance เราเห็นกลุ่มลูกค้าที่ทำหลากหลายมากขึ้นจากเดิมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะเป็นกลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ตอนนี้ลูกค้าหลายอุตสาหกรรมให้ความสนใจ ทั้งคมนาคม ภาคการเกษตร ซึ่งเราพยายามสนับสนุนลูกค้าทั้งในด้านสินเชื่อและการระดมทุน”

“โดยเราก็เห็นสัญญาณในช่วง 3 เดือนแรกลูกค้าเข้ามาให้ช่วยระดมทุนในตลาดเร็วขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากภาวะตลาดที่มีทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ลูกค้าขนาดกลางและใหญ่เร่งออกหุ้นกู้เร็วขึ้น ระยะเวลา 3-5 ปี จากปีก่อนเราทำเรื่อง ESG Finance รวมกัน 2.2 หมื่นล้านบาท ปีนี้ก็จะทำมากขึ้น”

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance