เฮงเค็ล ซื้อธุรกิจแฮร์โปรเฟสชันนัลของชิเซโด้ในเอเชียแปซิฟิก
ดุสเซลดอร์ฟ-เฮงเค็ล ลงนามในข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อธุรกิจ Hair Professional ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของชิเซโด้ การเข้าซื้อกิจการนี้ประกอบด้วยสินค้าและแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มสินค้าโปรเฟสชันนัล เช่น Sublimic และ Primience ที่ได้รับการรับรองลิขสิทธิ์ภายใต้แบรนด์ชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล ทั้งนี้ ชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล เป็นแบรนด์สำหรับซาลอนที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมสำหรับช่างทำผมมืออาชีพ ในด้านผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม สีผม การจัดแต่งทรงผม รวมถึงการดัดผม เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจในฐานะพันธมิตรที่เข้มแข็งกับเฮงเค็ล ชิเซโด้จะยังคงถือหุ้น 20% ของชิเซโด้โปรเฟสชั่นแนลในประเทศญี่ปุ่น
ในปีงบประมาณ 2020 ธุรกิจที่เข้าซื้อมีรายงานยอดขายประมาณ 100 ล้านยูโร และมีพนักงานมากกว่า 500 คน รวมถึงความสามารถในด้าน R&D ที่แข็งแกร่ง โดยได้ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในเกือบทุกประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมและเทรนด์ด้านความสวยความงาม โดยส่วนแบ่งการขาย ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ถือเป็นตลาดที่สำคัญที่สุด
“ด้วยวาระเชิงกลยุทธ์สำหรับการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายของเรา การเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพอร์ตโฟลิโอสินค้าของเราเป็นอย่างมาก การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้นับเป็นก้าวประวัติศาสตร์ของธุรกิจ Hair Professional ของเฮงเค็ล การขยายธุรกิจระดับมืออาชีพไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะทำให้เราเป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นแนวหน้าในภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยศักยภาพในการเติบโตในอนาคตที่น่าดึงดูดใจ อีกทั้งจะช่วยเสริมทัพความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ Hair Professional ของเราซึ่งมีพัฒนาการที่แข็งแกร่งมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจะเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคของเราในอนาคต” คาร์สเทน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฮงเค็ล กล่าว
“เราตื่นเต้นกับโอกาสที่จะเพิ่มแบรนด์ที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จเหล่านี้เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอสินค้าสำหรับช่างผมมืออาชีพของเรา ธุรกิจนี้เหมาะอย่างยิ่งในเชิงยุทธศาสตร์สำหรับพอร์ตโฟลิโอของเราในขณะนี้และช่วยส่งเสริมแบรนด์ในหมวดเส้นผมอย่างมาก ในขณะเดียวกันจะช่วยขยายตำแหน่งทางการตลาดของเราในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยธุรกรรมดังกล่าวนี้จะช่วยให้เราสร้างนวัตกรรมและแพลตฟอร์มการเติบโตสำหรับธุรกิจระดับช่างผมมืออาชีพในภูมิภาคที่มีความน่าสนใจ โดยมีเป้าหมายเพื่อการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านข้อตกลงกับชิเซโด้ จะทำให้เราเพิ่มตำแหน่งทางการตลาดของเราในประเทศญี่ปุ่นและจีน ซึ่งเป็นตลาดผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมอันดับ 2 และ 3 ของโลกอย่างมีนัยสำคัญ และยังเป็นศูนย์กลางเทรนด์แฟชั่นและนวัตกรรมที่สำคัญอีกด้วย” วูล์ฟกัง โคนิค รองประธานกรรมการบริหาร บิวตี้แคร์ เฮงเค็ล กล่าว
โดยธุรกรรมนี้ เป็นอีกก้าวที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเส้นผมสำหรับช่างผมมืออาชีพของเฮงเค็ลในช่วงหลายปีนี้ โดยเมื่อปี 2557 เฮงเค็ลเข้าซื้อกิจการบริษัทอเมริกัน 3 บริษัท คือ เซ็กซี่ แฮร์ (Sexy Hair) อัลเทอร์นา (Alterna) และ เคนร่า (Kenra) และปี 2560 เฮงเค็ลประสบความสำเร็จในการปิดดีลซื้อกิจการของ แนททูร่า แลบอราทอรีส์ (Nattura Laboratories) และธุรกิจดูแลเส้นผมระดับมืออาชีพของชิเซโด้ ในตลาดอเมริกาเหนือ
ธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับสำหรับช่างผมมืออาชีพของเฮงเค็ล เป็นผู้นำการตลาดในหลายเซกเมนต์ในระดับนานาชาติ และเฮงเค็ลยังเป็น 1 ใน 3 บริษัทความงามระดับโลกที่มีพอร์ตโฟลิโอสินค้าและแบรนด์ดูแลเส้นผมที่หลากหลาย ทั้งผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม จัดแต่งทรงผม และดูแลเส้นผม สำหรับแบรนด์สินค้ากลุ่มโปรเฟสชันนัล ได้แก่ ชวาร์สคอฟ โปรเฟสชันนัล (Schwarzkopf Professional) โบนาเคียว (Bonacure) อิโกรา รอยัล (Igora Royal) และออร์เธนทิค บิวตี้ คอนเซ็ปต์ (Authentic Beauty Concept) ในธุรกิจที่กล่าวมานี้สร้างยอดขายมากกว่า 1 พันล้านยูโร และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในอนาคตของหน่วยธุรกิจ Henkel Consumer Brand ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ได้จัดตั้งขึ้นจากการควบรวมหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนกับหน่วยธุรกิจบิวตี้แคร์ภายในช่วงต้นปี 2566
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการปิดการทำธุรกรรมตามธรรมเนียมของการควบรวมกิจการ และการอนุมัติด้านกฎระเบียบ
เฮงเค็ล ดำเนินธุรกิจทั่วโลกด้วยพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่สมดุลและหลากหลาย บริษัทฯ เป็นผู้นำในสามกลุ่มธุรกิจทั้งในธุรกิจเพื่ออุตสาหกรรมและธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค อันเป็นผลมาจากแบรนด์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ล (Adhesive Technologies) เป็นผู้นำในตลาดกาวในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ (Laundry & Home Care and Beauty Care businesses) เฮงเค็ลเป็นผู้นำในหลายตลาดและประเภทผลิตภัณฑ์ทั่วโลก
เฮงเค็ลก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2419 และมีประวัติความสำเร็จอันยาวนานกว่า 140 ปี ในปี พ.ศ. 2563 เฮงเค็ลมียอดขายมากกว่า 19,000 ล้านยูโร และมีผลกำไรดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว 2,600 ล้านยูโร เฮงเค็ลมีพนักงานมากกว่า 53,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความหลากหลายมีความมุ่งมั่น รวมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยวัฒนธรรมขององค์กรที่แข็งแกร่ง มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน และมีคุณค่าร่วมกัน ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นที่ยอมรับ เฮงเค็ลได้รับการยกย่องจากดัชนีและการจัดอันดับระหว่างประเทศต่างๆ หุ้นบุริมสิทธิของเฮงเค็ลจดทะเบียนอยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ DAX ของเยอรมนี
ข้อมูลนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งอ้างอิงจากการประมาณการและสมมติฐานในปัจจุบันที่จัดทำโดยฝ่ายบริหารองค์กรของ Henkel AG & Co KGaA ข้อความเกี่ยวกับอนาคตมีลักษณะการใช้คำต่างๆ เช่น “คาดหวัง” “ตั้งใจ” “วางแผน” “คาดการณ์” “เชื่อ” “ประมาณ” และคำที่คล้ายกัน ไม่ควรเข้าใจข้อความดังกล่าวว่าเป็นรูปแบบการรับประกันว่าความคาดหวังเหล่านั้นจะกลายเป็นความถูกต้องแต่อย่างใด ผลการดำเนินงานและผลลัพธ์ในอนาคตที่บรรลุได้จริงของ Henkel AG & Co KGaA และบริษัทในเครือขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ดังนั้นจึงอาจแตกต่างอย่างมากจากข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ปัจจัยเหล่านี้หลายอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมของเฮงเค็ลและไม่สามารถประมาณการล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ เช่น สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในอนาคตและการกระทำของคู่แข่งและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในตลาด เฮงเค็ลไม่มีแผนหรือดำเนินการที่จะปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ
เอกสารนี้ประกอบด้วย – การรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องซึ่งไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน – มาตรการทางการเงินเพิ่มเติมที่เป็นหรืออาจเป็นมาตรการอื่นๆ ในการดำเนินงาน (มาตรการที่ไม่ใช่ GAAP) มาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเหล่านี้ควรแยกกันหรือใช้เป็นทางเลือกอื่นในการวัดสินทรัพย์สุทธิและฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานของเฮงเค็ลตามที่นำเสนอตามแม่บทการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องในงบการเงินรวม บริษัทอื่นๆ ที่รายงานหรืออธิบายเกี่ยวกับมาตรการประสิทธิภาพทางเลือกที่คล้ายคลึงกันอาจคำนวณได้แตกต่างกัน
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/business